หนังพล็อตน่าสนใจ องค์ประกอบดี แต่ว่าตกม้าตายทำได้ไม่สุดสักทาง น่าเสียดายสุดๆ
นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ไทยที่น่าสนใจตั้งแต่แบบอย่างและก็โครงเรื่อง ที่บอกเล่าเรื่องราวของพนักงานที่ทำงานที่สงสัยว่าบอสของพวกเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง! แถมหนังยังมีเหล่าดาราที่น่าสนใจมากมายทั้งยัง ไอซ์-ปรีชญา, ไข่มุก-นรินทร์รักษา, เผือก-พงศธร, โอ๊ต-ความบันเทิงใจ, ผักกาด-เพียงพอสวย, ก้อง-สหรัถและก็ นอท-สัณหณัฐ (บ้านเราเอง) แบบอย่างก็มีมุกบ้างกระจาย พูดง่ายๆเป็นน่าสนใจทุกจุด คิดภาพไว้ว่ามันต้องเป็นแนวแบบหนังไล่เฉือน (Slasher) ผสมความเป็นหนังตลก (Comedy) อะไรอย่างนั้น…แต่ว่านั่นแหละอย่างที่บอกไป มันไม่สุดสักทาง ตัวหนังใฝ่สูงจะเป็นหลายอย่างเกินไปจนเอาไม่อยู่
เอากันที่จุดแรกเป็นนักแสดง จะต้องบอกเลยว่านักแสดงแต่ละคนนับว่าแสดงได้ดีในอย่างที่ควรเป็น แต่ว่าโชคร้ายบางนักแสดงที่หนังไม่อาจจะดึงประสิทธิภาพออกมาให้คนดูได้มองเห็นสักเท่าไหร่ รวมทั้งบางผู้แสดงจากต้นจนถึงหมดเรื่องก็ยังสงสัยว่า “มันมีความสำคัญจริงๆหรอ?”
ต่อกันที่ความตลกขบขัน หนังมีการหยอดมุกตามทางห่างๆ ที่เอาจริงเอาจังๆมิได้ฮาอะไรสักเท่าไหร่ ทำเป็นเพียงแค่ยิ้มมุมปากกับบางมุก ซึ่งส่วนใหญ่ออกไปทางแปกเสียด้วยซ้ำ กระทั่งจะต้องสะกิดตนเอง อ้อ…ฉากนี้เล่นมุกสินะ
พาร์ทของความระทึกยิ่งสอบตกเข้าไปใหญ่ จากตัวอย่างมีศพนู่นนี่นั่น ทำให้หาเรื่องคิดไปอีกว่ามันจะต้องมีฉากไล่ฆ่า ฉากตื่นเต้น ลุ้นบ้างอะไรอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงๆหนังกลับทำเป็นไม่ถึง มีนะ แม้กระนั้นน้อย แถมยังไม่ตื่นเต้นเลยแม้กระทั้งหน่อยเดียว ไม่สามารถทำให้ผู้ชมลุ้นตามรูปการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่องได้เลยแม้แต่น้อยหากแม้หลายๆฉากคงจะขยี้ให้ตื่นเต้นได้ก็ตาม อารมณ์แบบอ้ามาแล้วอะ…แล้วเดินจากไปซะแบบนั้น
เรื่องราวยิ่งไปกันใหญ่ เต็มไปด้วยความไม่มีเหตุผล ของทุกตัวละคร ยิ่งช่วงท้ายนี่แน่ชัดเลย การตัดสินใจพฤติกรรมต่างๆของตัวละครมันดู “อิหยังวะ” เรื่องเฉลยเงื่อนคนร้ายก็มองแบบยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ผู้ชมเชื่อ ในซีนนั้นคนร้ายแสดงได้จัดว่าดีนะ แม้กระนั้นบทที่บอกมองขำขัน ไม่ธรรมชาติเลยอะ และก็การคลี่คลายเรื่องราวก่อนไปซีนท้ายที่สุดก็ทำเป็นแบบจับยัดมากมาย เป็นทั้งยังเรื่องไม่มีการปูเรื่องราวกลุ่มนี้ให้ผู้ชมได้คิดตาม พอเพียงถึงจุดนึงก็ดันตกลงใจยัดๆเรื่องราวทุกสิ่งเฉลยในซีนเดียว
แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่อดดูมิได้เลยจริงๆเป็นงานวางแบบ การใช้แสงสว่าง สี เสียงหรือมุมกล้องถ่ายรูปสำหรับเพื่อการถ่ายทำถือว่างามจริงๆผ่านขั้นตอนการคิดมาอย่างยอดเยี่ยม บางซีนนี่จำต้องบอกว่าเท่มาก
สรุปแล้ว บอสฉันขยันเฉือน กลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่โชคร้าย มันมีส่วนประกอบทุกๆอย่างมันดีหมดแล้วอะ ไอเดียเริ่มต้นเอ่ย นักแสดงเอ่ย ครบที่จะต้องเป็นหนังที่สำราญใจได้มากกว่านี้หากมัวแต่ละทางให้สุดกว่านี้ ปัจจุบันนี้มันเสมือนแบบแตะต้องโน่นนิดแตะต้องนี่หน่อย อะโน่นอีกหน่อยละกัน นี่อีกนิดน่า มันจึงกลายเป็นโชคร้ายแบบสุดๆไปเลย