ครึ่งแรกปูเรื่องน่าติดตาม ครึ่งหลังแอ็คชันจัดเต็ม ลูกปืนลอยละล่องว่อนทุกวินาที
The Outpost ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย เป็นหนังที่สร้างมาจากเหตุที่เกิดขึ้นจริงของกรุ๊ปทหารอเมริกันที่ปฏิบัติหน้าที่ณ์อยู่ที่อัฟกานิสถาน แต่ว่าที่ตั้งมั่นของพวกเขาเป็นหลุมซึ่งแต่ละวันก็จะต้องเจอหน้ากับความอันตรายพวกตาลีบันมายิงเป็นว่าเล่น และก็อยู่มาวันหนึ่งเรื่องก็ห่วยแตกสุดๆ เมื่อเหล่าทหารตาลีบันยกทัพมากยิ่งกว่า 400 คน ล้อมทุกด้าน หวังกระหน่ำที่ราบนี้ให้ยับ ทำให้เหล่าทหาร 50 กว่านาย กัดฟันสู้เพื่อคุ้มครองป้องกันรวมทั้งยึดฐานปฏิบัติการนี้เอาไว้
หนังถูกแบ่งเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน โดยทีแรกๆหนังจะพาพวกเราไปรู้จักกับเหล่าทหาร 50 กว่านายในสนามรบที่นี้ ซึ่งหนังมันพาไปรู้จักจริงๆขึ้นชื่อลือนามซะหมดทุกนักแสดง ปัญหามันกำเนิดโดยทันที “จำไม่ได้” จำไม่ได้จริงๆว่าผู้ใดกันแน่เป็นคนใดกัน ใบหน้าเอ่ย ชุดสำหรับใส่เอ่ย นอกเหนือจากนักแสดงหลักที่ขึ้นในโปสเตอร์แล้ว ก็เสียเวล่ำเวลานั่งขนคิ้วขมวดว่าไอ้นี่คนใดกันแน่วะ จำต้องใช้เวลาพักใหญ่ๆเลยกว่าจะพอเพียงจับได้ว่าไอ้นี่เป็นใครกันแน่ นอกนั้นหนังยังพาพวกเราไปรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่างๆข้อสร้างมิตรกับราษฎร อะไรทำนองนั้น มีการแทรกแอ็คชันเบาๆเป็นช่วงๆกับการตอดมาจู่โจมของเหล่าตาลีบัน
แม้กระนั้นช่วงหลังน่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนรอ เพราะเหตุว่าแอ็คชันจัดเต็มมากมาย ไม่ใช่แค่ 5-10 นาที แต่ว่าล่อกันยาวจนถึงเกือบจะสิ้นเรื่องเลย มายังกับลมพายุ เมื่อเหล่าตาลีบัน 400 คน บุกมาจู่โจมฐานปฏิบัติการนี้ ห่าลูกกระสุนลอยละล่องว่อนทุกวินาที เสียงปืนดังแบบไม่มีหยุด แสงจากกระบอกปืนจากทุกทิศทุกทาง พร้อมเสียงระเบิดดังเป็นช่วงๆปืนครกเอ่ย RPG เอ่ย มาแบบไม่ให้พักหายใจ ราวกับได้เข้าไปอยู่ในสถานะการณ์จริงๆมีนานัปการเหตุการณ์ให้ติดตาม (จะว่าก็ว่าเถิด ยิ่งมองก็ยิ่งอดคิดมิได้ว่าคนไหนมันสร้างฐานไว้ที่ตรงนี้ กึ่งกลางเขาล้อม เสียเปรียบในทุกมุมมอง เสมือนรอคอยวันให้เขามากระหน่ำถ้าอย่างนั้นอะ)
มีสิ่งหนึ่งที่พวกเราตะหงิดกับฉากแอ็คชันเป็น มันไม่เรียลสักเท่าไหร่เลย โดยยิ่งไปกว่านั้นการยิงกันแล้วมองเห็นผ่านลำกล้องถ่ายภาพของปืนเนี่ย เอามาใช้บ่อยครั้ง
มันมีความรู้สึกบางอย่างที่ยังขาดๆอยู่บ้าง หนังมันยังไม่มีซีนให้น่าจำมากพอมั้ง แอ็คชันมากจริง เดือดจริง แต่ว่ามันก็ยังรู้สึกไม่สนุกมากพอกับส่วนนี้อย่างบอกผิดแบบเดียวกัน บางทีก็อาจจะด้วยเหตุว่าเนื่องจากว่านักแสดงมากหนังพาพวกเราไปรู้จักอย่างผิวเผิน เลยอาจส่งผลให้พวกเราไม่อินกับแต่ละผู้แสดงสักเท่าไหร่ด้วยล่ะมั้ง ดราม่าก็มี แม้กระนั้นมันยังไม่ถึงจุดจริงๆ