โหดขึ้นจริง แต่ระทึกน้อยลง ภาคแรกตื่นเต้นจนลืมหายใจ ภาคนี้หายใจจนถึงลืมตื่นเต้น
Don’t Breathe เป็นหนังเรื่องนึงที่ส่วนตัวผมไม่คิดว่ามันจะมีภาคต่อ แล้วก็คิดไว้ว่าถ้าหากทำภาคต่อออกมามันจะต้องเป็นการพยายามสร้างเอาใจแฟน มันจะต้องดร็อปอะไรหลายๆอย่างแน่เลย ซึ่งไม่รู้ว่าแผนงานสร้างคืออะไร แต่อะไรหลายๆอย่างดร็อปจริง
Don’t Breathe 2 เป็นเรื่องราวที่ชี้แจงเกี่ยวกับคุณลุงตาบอดที่ในโอกาสนี้เขาได้เลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งจนกระทั่งเปรียบเสมือนลูกสาว แต่แล้ววันหนึ่งก็มีกลุ่มคนมามานะลักพาตัวเด็กหญิงคนนั้น ทำให้คุณลุงตาบอดจำเป็นต้องไปทำร้ายพวกมันถึงที่เพื่อทวงตัวเด็กหญิงคืน
ความยอดเยี่ยมในภาคแรกเป็นความรู้สึกการกดดัน ความระทึกที่นักแสดงคุณลุงตาบอดได้สร้างเอาไว้ให้พวกเหล่าโจรที่บุกเข้าบ้านของเขา บวกกับเพลงประกอบที่ทำให้หัวใจพวกเราเต้นตุ๊บๆและก็จะต้องถึงกับกลั้นใจตาม โรงทั้งยังโรงเงียบสนิท พูดได้ว่าตื่นเต้นจนถึงลืมหายใจตามชื่อ Don’t Breathe อย่างยิ่งจริงๆ แม้กระนั้นในภาคนี้คุณความดีทั้งผองที่เคยมีในภาคแรกกลับหายไปกว่า 95% จังหวะลุ้นจังหวะระทึก ความระทึกใจ การเล่นกับการหายใจ และยังรวมไปถึงดนตรีประกอบก็ลดระดับลงมาอย่างน่าตกใจ ภายนี้หายใจเพลิดเพลินกระทั่งลืมตื่นเต้นไปเลย
สิ่งที่มากขึ้นมาอย่างชัดเจนในภาคนี้เป็นความโหดร้ายทารุณ ฉากชั่วร้ายๆที่แบบเลือดเป็นเลือด แหวะเป็นแหวะ แต่ว่าก็เพียงแค่นั้น ถึงโหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้นขนาดไหน ความระทึกบิ้วอารมณ์มิได้ก็แค่นั้นอยู่ดี
เรื่องราวก็มิได้น่าดึงดูดสักเท่าไหร่ อะไรบางอย่างเขียนมาแบบ อิหยังวะ (อุทานอย่างนี้หลายรอบหลายฉากมากมาย) และคลี่คลายง่าย หาทางออกง่าย มิได้มีไรน่าติดตามมากแค่ไหน ความน่าติดตามเดียวเป็นคุณลุงตาบอดจะจัดแจงกับคนอื่นๆอย่างไร แต่ว่าไอ้การจัดการมันก็มิได้มีอะไรเยี่ยมราวกับภาคแรกเลยแม้แต่น้อย
ผู้แสดงแต่ละคนก็…มิได้มีเสน่ห์น่าสนใจเลย เล่นกันแบบไม่ธรรมชาติกันเลย อีกทั้งชุดเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มาจับเด็กนี่หนักเลย หรือหนูน้อย Madelyn Grace ที่สวมบทที่คุณลุงตาบอดเอามาเลี้ยงก็แสดงมิได้น่าเอาใจช่วยสักเท่าไหร่ และก็ยังรวมทั้ง Stephen Lang ในบทคุณลุงตาบอดก็อยู่ในระดับมาตรฐาน มิได้มีอะไรเด่นด้วยเหมือนกัน